ทุกปีในช่วงเดือนตุลาคมจะมีเทศกาลหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับพี่น้องเชื้อสายจีน นั่นก็คือ เทศกาลกินเจ ซึ่งได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมานานหลายร้อยปี หากคุณไปเดินแถวเยาวราชในช่วงเทศกาลของการกินเจนี้ก็จะเห็นธงสีเหลือง และมีตัวอักษรทั้งภาษาจีนและภาษาไทยเป็นสีแดง ประดับประดาบริเวณที่จัดงานนั้นมากมาย
แล้วเทศกาลกินเจมีประวัติความเป็นมาอย่างไรล่ะ เรากินเจไปเพื่ออะไร เรามาหาคำตอบในบทความนี้กัน
ประวัติความเป็นมาของการกินเจ
มีตำนานความเชื่อเกี่ยวกับการกินเจอยู่ด้วยกันหลายเรื่อง แต่จะหยิบยกเรื่องที่สำคัญให้ได้รู้กัน โดยเรื่องแรกเชื่อกันว่าการกินเจนั้นเพื่อเป็นการบูชาสักการะพระพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์ 2 พระองค์ รวมแล้วเป็น 9 พระองค์
ตำนานอีกเรื่องเชื่อว่าการกินเจเป็นการรำลึกถึงบุคคลกลุ่มหนึ่งอันเป็นวีระบุรุษ โดยที่สมัยก่อนนั้นกองทัพแมนจูได้เข้ามาบุกยึดครองราชวงศ์หมิง แล้วสถาปนาเป็นราชวงศ์ชิง ต่อมาจึงได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า “หงี่หั่วท้วง” ลุกขึ้นมาต่อต้านกองทัพแมนจู การแสดงออกเพื่อต่อต้านนั้นทำโดยการ นุ่งขาวห่มขาว งดกินเนื้อสัตว์ โดยเชื่อว่าการทำแบบนี้จะสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มของตัวเองได้ แต่แล้วก็โดนกองทัพแมนจูปราบปรามจนถึงแก่ชีวิตอย่างโหดเหี้ยม การกินเจจึงเป็นการรำลึกถึงวีระบุรุษเหล่านี้ในอดีตนั่นเอง
ช่วงเวลาของการกินเจ
ประเพณีแห่งการกินเจนี้จะเริ่มขึ้นในช่วงของวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินของจีน รวมเป็น 9 วัน 9 คืน ซึ่งตรงกับเดือนตุลาคมของประเทศไทย
ประโยชน์ของการกินเจ
- กินเพื่อจุดประสงค์ทางด้านสุขภาพ การกินเจจะเป็นการงดเว้นรับประทานเนื้อสัตว์ต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมวัว และหันมารับประทานผักและผลไม้มากขึ้น อาหารโปรตีนที่กินก็ได้จากผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากถั่วเหลือง ซึ่งหากคุณอยู่ในช่วงของการรับประทานเจก็จะทำให้ผิวพรรณดูผ่องใส ดูสุขภาพดีกว่าที่ผ่านมา
- กินเจเพื่อให้จิตมีเมตตา เนื่องจากในแต่ละวันนั้น เรานำเนื้อสัตว์ต่างๆมาประกอบเป็นอาหารมากมาย การที่เรางดเว้นการทานเนื้อสัตว์ลงบ้าง ก็จะทำให้จิตใจเราผุดผ่อง แจ่มใส มีเมตตาจิตต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้มากขึ้น
- กินเพื่องดเว้นกรรม คนที่ทานเจเป็นประจำนั้นมักจะตระหนักในข้อนี้ ซึ่งการกินสิ่งมีชีวิตต่างๆที่มีการฆ่าเพื่อเอาเลือดเอาเนื้อมาบริโภคมันเป็นการสร้างกรรม แม้เราจะไม่ได้เป็นคนฆ่าสัตว์เหล่านั้นเองแต่กรรมนั้นอาจตกมาถึงเรา ดังนั้นผู้ที่เข้าใจในเรื่องนี้จึงหันมารับประทานเจกัน
การกินเจนั้นสามารถที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพดีขึ้น และทำให้จิตใจผ่องใสมากขึ้น ดังนั้นหากมีโอกาสคุณก็ควรที่ลองกินเจดูบ้าง ซึ่งมันจะเป็นการฝึกจิตคุณให้มีเมตตา และสุขภาพของคุณโดยภาพรวมก็จะดีขึ้นได้