เช็คด่วน!! ชาปลายนิ้วเกิดจากอะไร

5

การชาที่ปลายนิ้วเป็นอาการที่หลายคนอาจเคยประสบ โดยอาการชานี้มักมาพร้อมกับความรู้สึกเสียว หรือเหมือนมีเข็มแทงที่ปลายนิ้ว สาเหตุของอาการชาอาจมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและโรคประจำตัว การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและการแก้ไขอย่างถูกวิธีจะช่วยให้อาการนี้บรรเทาลงได้ และป้องกันไม่ให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้น

สาเหตุของการชาที่ปลายนิ้ว

การชาปลายนิ้วมักเกิดจากเส้นประสาท

1.การกดทับเส้นประสาท

การกดทับเส้นประสาทเกิดขึ้นจากการใช้มือในท่าทางเดิมซ้ำ ๆ เช่น การพิมพ์คอมพิวเตอร์ หรือการใช้มือจับโทรศัพท์นานเกินไป การกดทับนี้จะทำให้เส้นประสาท จนเกิดอาการชา เสียว หรือปวดได้

2.การขาดวิตามิน

วิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี 1 บี 6 และบี 12 มีส่วนสำคัญต่อระบบประสาท หากร่างกายขาดวิตามินเหล่านี้จะทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการชาตามปลายนิ้วและปลายเท้าได้

3.โรคเบาหวาน

ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเส้นประสาทเสื่อมจากน้ำตาลในเลือดสูง (Diabetic Neuropathy) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการชาที่ปลายนิ้ว

4.โรคเกี่ยวกับเส้นเลือด

โรคที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือด เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว (Atherosclerosis) อาจส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ทำให้เส้นประสาทที่ปลายนิ้วขาดออกซิเจนและสารอาหาร

5.ภาวะออฟฟิศซินโดรม

คนที่ทำงานในออฟฟิศมักพบอาการนี้จากการใช้มือในท่าทางที่ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือเป็นเวลานาน หรือการนั่งท่าเดิมตลอดเวลา ซึ่งเป็นการบีบเส้นเลือดและเส้นประสาท

รักษาอาการชาที่ปลายนิ้ว

1.ปรับพฤติกรรมในการใช้มือ หากคุณต้องใช้มือพิมพ์คอมพิวเตอร์ หรือใช้มือซ้ำ ๆ ในการทำงาน ควรหยุดพักเป็นระยะ ๆ เพื่อผ่อนคลายเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบริเวณข้อมือ

2.ออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณแขนและข้อมือ เช่น การหมุนข้อมือ การยืดนิ้ว และการนวดเบา ๆ สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดการกดทับเส้นประสาทได้

3.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินบีสูง เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ ธัญพืชเต็มเมล็ด และผักใบเขียว

4.การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

5.การรักษาและปรึกษาแพทย์ หากมีอาการชาอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะ

การชาที่ปลายนิ้วอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การกดทับเส้นประสาท การขาดวิตามิน โรคประจำตัวอย่างเบาหวาน หรือการทำงานที่ใช้งานมือซ้ำ ๆ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน การพักมือและออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากอาการชารุนแรงหรือไม่ทุเลา ควรเข้ารับการตรวจและคำปรึกษาจากแพทย์